EC2 Instance Savings Plans คืออะไร? นี่คือคำถามแรกที่หลายคนสงสัยเมื่อเริ่มใช้งาน Amazon Web Services (AWS) โดยเฉพาะบริการ EC2 (Elastic Compute Cloud) Savings Plans เป็นโมเดลการกำหนดราคาที่ AWS นำเสนอ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน EC2 ได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับการจ่ายตามการใช้งานจริง (On-Demand) โดย Savings Plans จะให้ส่วนลดในการใช้งาน EC2 เมื่อคุณตกลงที่จะใช้บริการ EC2 ในปริมาณที่กำหนดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีให้เลือกทั้งแบบ 1 ปี หรือ 3 ปี
EC2 Instance Savings Plans นั้นแตกต่างจาก Reserved Instances (RI) ซึ่งเป็นโมเดลการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกรูปแบบหนึ่งของ AWS ตรงที่ Savings Plans มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า กล่าวคือ Savings Plans จะผูกกับปริมาณการใช้งานที่ตกลงไว้ ไม่ได้ผูกกับ Instance Type หรือ Availability Zone ใดๆ ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ Instance Type ที่แตกต่างกัน หรือย้ายไป Availability Zone อื่นได้ โดยที่ยังคงได้รับส่วนลดตามที่ตกลงไว้
หลักการทำงานของ Savings Plans นั้นเข้าใจได้ง่าย โดยคุณจะต้องทำการ “Commit” หรือตกลงที่จะใช้บริการ EC2 ในจำนวนเงินที่กำหนดต่อชั่วโมงเป็นระยะเวลา 1 หรือ 3 ปี เมื่อคุณทำ Commitment แล้ว AWS จะให้ส่วนลดในการใช้งาน EC2 ตาม Commitment นั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้งาน EC2 ตราบเท่าที่ปริมาณการใช้งานของคุณยังไม่เกิน Commitment ที่คุณทำไว้ คุณก็จะได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่
ตัวอย่างเช่น หากคุณทำ Commitment ไว้ที่ $10 ต่อชั่วโมง และในเดือนนั้นคุณใช้งาน EC2 ไป $15 ต่อชั่วโมง คุณจะได้รับส่วนลดตาม Savings Plans สำหรับ $10 แรก และ $5 ที่เหลือจะถูกคิดราคาตาม On-Demand rate ซึ่งเป็นราคาปกติที่ไม่ได้มีส่วนลด
ความยืดหยุ่นของ Savings Plans: หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของ Savings Plans คือความยืดหยุ่นในการใช้งาน คุณสามารถเปลี่ยน Instance Type, ขนาดของ Instance, ระบบปฏิบัติการ, หรือแม้แต่ Availability Zone ได้ โดยที่ยังคงได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่ ซึ่งแตกต่างจาก Reserved Instances ที่จะผูกกับ Instance Type และ Availability Zone ที่กำหนด ทำให้ Savings Plans เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการทรัพยากร EC2
เหตุผลที่ Savings Plans มีราคาถูกกว่า On-Demand นั้นเป็นเพราะว่าคุณได้ทำ Commitment กับ AWS ในการใช้งาน EC2 ในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ AWS สามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรได้ดีขึ้น และสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ เมื่อ AWS ลดต้นทุนได้ ก็สามารถส่งต่อส่วนลดนั้นให้กับลูกค้าที่ทำ Savings Plans ได้
หลักการของ Commitment: การทำ Commitment ช่วยให้ AWS คาดการณ์การใช้งาน EC2 ได้แม่นยำขึ้น ทำให้ AWS สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียทรัพยากร และลดต้นทุนโดยรวมได้ การทำ Commitment นี้จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Savings Plans มีราคาถูกกว่า On-Demand
ส่วนลดตามระยะเวลา: Savings Plans มีส่วนลดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณเลือกทำ Commitment โดยทั่วไปแล้ว การทำ Commitment ในระยะเวลา 3 ปี จะได้รับส่วนลดที่สูงกว่าการทำ Commitment ในระยะเวลา 1 ปี ดังนั้น หากคุณมั่นใจว่าจะมีการใช้งาน EC2 อย่างต่อเนื่องในระยะยาว การทำ Commitment ในระยะเวลา 3 ปี จะเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า
AWS มี Savings Plans ให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่:
1. Compute Savings Plans: เป็น Savings Plans ที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยจะให้ส่วนลดสำหรับการใช้งาน EC2, Fargate และ Lambda คุณสามารถเปลี่ยน Instance Type, ขนาดของ Instance, ระบบปฏิบัติการ, หรือแม้แต่ Availability Zone ได้ โดยที่ยังคงได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่
2. EC2 Instance Savings Plans: เป็น Savings Plans ที่ให้ส่วนลดสำหรับการใช้งาน EC2 เท่านั้น โดยจะให้ส่วนลดสำหรับการใช้งาน Instance Type ภายใน Instance Family เดียวกัน เช่น หากคุณมี EC2 Instance Savings Plans สำหรับ Instance Family m5 คุณจะได้รับส่วนลดสำหรับการใช้งาน m5.large, m5.xlarge, m5.2xlarge และ Instance Type อื่นๆ ใน Instance Family m5
การเลือกประเภท Savings Plans: การเลือกประเภทของ Savings Plans ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของคุณ หากคุณต้องการความยืดหยุ่นสูงสุดในการใช้งาน EC2, Fargate และ Lambda การเลือก Compute Savings Plans จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณต้องการส่วนลดที่สูงกว่าสำหรับการใช้งาน EC2 อย่างเดียว การเลือก EC2 Instance Savings Plans อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
การใช้งาน Savings Plans ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อ Savings Plans เท่านั้น แต่ยังต้องมีการวางแผนและติดตามการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่
การวิเคราะห์การใช้งาน EC2: ก่อนที่จะซื้อ Savings Plans คุณควรวิเคราะห์การใช้งาน EC2 ของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบว่าคุณมีการใช้งาน Instance Type, ขนาดของ Instance, และ Availability Zone ใดบ้าง และมีการใช้งาน EC2 ในปริมาณเท่าใดต่อชั่วโมง โดยคุณสามารถใช้ AWS Cost Explorer เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลนี้
การเลือก Commitment ที่เหมาะสม: หลังจากที่คุณวิเคราะห์การใช้งาน EC2 แล้ว คุณควรเลือก Commitment ที่เหมาะสมกับปริมาณการใช้งาน EC2 ของคุณ โดยพิจารณาจากปริมาณการใช้งาน EC2 ที่คุณมีอยู่ และประมาณการการใช้งาน EC2 ในอนาคต หากคุณไม่แน่ใจ คุณอาจเริ่มต้นด้วย Commitment ที่ต่ำก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่ม Commitment เมื่อคุณมั่นใจมากขึ้น
การติดตามการใช้งาน Savings Plans: หลังจากที่คุณซื้อ Savings Plans แล้ว คุณควรติดตามการใช้งาน Savings Plans ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่ และหากพบว่าคุณมีการใช้งาน EC2 เกิน Commitment ที่คุณทำไว้ คุณอาจพิจารณาซื้อ Savings Plans เพิ่มเติม หรือปรับการใช้งาน EC2 ของคุณ เพื่อให้ได้รับส่วนลดสูงสุด
ปัญหา: การเลือก Commitment ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ไม่ได้รับส่วนลดสูงสุด หรือเกิดการเสียเงินโดยใช่เหตุ หาก Commitment ต่ำเกินไป จะทำให้ต้องจ่าย On-Demand สำหรับการใช้งานที่เกินมา หาก Commitment สูงเกินไป จะทำให้เสียเงินเปล่าจากการที่ไม่ได้ใช้งานจริง
การแก้ไข: วิเคราะห์การใช้งาน EC2 อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ Savings Plans โดยใช้ AWS Cost Explorer เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ และเลือก Commitment ที่เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานจริง หากไม่แน่ใจ ควรเริ่มต้นด้วย Commitment ที่ต่ำก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มเมื่อมั่นใจมากขึ้น
1. Savings Plans ครอบคลุม Fargate และ Lambda: นอกเหนือจาก EC2 แล้ว Compute Savings Plans ยังครอบคลุมการใช้งาน Fargate และ Lambda ซึ่งเป็นบริการอื่นๆ ของ AWS ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น หากคุณมีการใช้งาน Fargate หรือ Lambda ร่วมด้วย
2. Savings Plans สามารถใช้ร่วมกับ Reserved Instances ได้: คุณสามารถใช้ Savings Plans ร่วมกับ Reserved Instances ได้ โดยส่วนลดจาก Savings Plans จะถูกนำไปใช้ก่อน ส่วนที่เหลือจากการใช้งาน Savings Plans จะถูกคิดราคาตาม Reserved Instances หากคุณมี Reserved Instances อยู่แล้ว การซื้อ Savings Plans เพิ่มเติมจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
3. Savings Plans มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า Reserved Instances: Savings Plans มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า Reserved Instances ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน Instance Type, ขนาดของ Instance, หรือ Availability Zone ได้ โดยที่ยังคงได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่
คำถาม: Savings Plans เหมาะกับใคร?
คำตอบ: Savings Plans เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งาน EC2 อย่างต่อเนื่องและมีปริมาณการใช้งานที่แน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน EC2 ในระยะยาว
คำถาม: ฉันควรเลือก Savings Plans แบบ 1 ปี หรือ 3 ปี?
คำตอบ: หากคุณมั่นใจว่าจะมีการใช้งาน EC2 อย่างต่อเนื่องในระยะยาว การเลือก Savings Plans แบบ 3 ปี จะได้รับส่วนลดที่สูงกว่า แต่หากคุณไม่แน่ใจ หรือมีการใช้งาน EC2 ที่ไม่แน่นอน การเลือก Savings Plans แบบ 1 ปี อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
คำถาม: ฉันสามารถยกเลิก Savings Plans ได้หรือไม่?
คำตอบ: ไม่สามารถยกเลิก Savings Plans ได้ เมื่อคุณซื้อ Savings Plans แล้ว คุณจะต้องจ่ายค่า Commitment ตามที่ตกลงไว้จนครบกำหนดสัญญา ดังนั้น คุณควรพิจารณาการใช้งาน EC2 ของคุณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ Savings Plans
คำถาม: Savings Plans มีผลต่อการ Scaling ของ EC2 หรือไม่?
คำตอบ: Savings Plans ไม่มีผลต่อการ Scaling ของ EC2 คุณสามารถ Scale EC2 ขึ้นหรือลงได้ตามความต้องการของคุณ โดยที่ยังคงได้รับส่วนลดตาม Savings Plans ที่คุณมีอยู่ ตราบเท่าที่การใช้งานของคุณยังไม่เกิน Commitment ที่คุณทำไว้
คำถาม: ฉันควรใช้ Savings Plans ร่วมกับ Reserved Instances หรือไม่?
คำตอบ: การใช้ Savings Plans ร่วมกับ Reserved Instances เป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะจะช่วยให้คุณได้รับส่วนลดที่มากขึ้น โดยส่วนลดจาก Savings Plans จะถูกนำไปใช้ก่อน ส่วนที่เหลือจากการใช้งาน Savings Plans จะถูกคิดราคาตาม Reserved Instances
AWS Savings Plans: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ AWS ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Savings Plans โดยละเอียด รวมถึงวิธีการใช้งานและคำถามที่พบบ่อย
Cloud HM Blog: บทความเกี่ยวกับ AWS Savings Plans ในภาษาไทย ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำในการใช้งาน Savings Plans อย่างมีประสิทธิภาพ
What are EC2 Instance Savings Plans? This is the first question many people ask when starting to use Amazon Web Services (AWS), especially the EC2 (Elastic Compute Cloud) service. Savings Plans are a pricing model offered by AWS to help users significantly reduce their EC2 usage costs compared to paying on-demand. Savings Plans provide discounts on EC2 usage when you commit to using a specific amount of EC2 service for a certain period, typically either one or three years.
EC2 Instance Savings Plans differ from Reserved Instances (RIs), another cost-saving model from AWS, in that Savings Plans offer more flexibility. Savings Plans are tied to a committed amount of usage rather than specific instance types or availability zones. This allows you to switch to different instance types or move to other availability zones while still receiving the agreed-upon discount.
The working principle of Savings Plans is straightforward. You "commit" to using a specific amount of EC2 service per hour for one or three years. Once you make a commitment, AWS provides discounts on EC2 usage based on that commitment. As long as your usage does not exceed your commitment, you receive the discounts provided by your Savings Plans.
For example, if you commit to $10 per hour and use $15 per hour of EC2 in a given month, you will receive discounts under the Savings Plans for the first $10 and the remaining $5 will be charged at the on-demand rate, which is the regular rate without discounts.
Flexibility of Savings Plans: One of the key advantages of Savings Plans is their flexibility. You can change instance types, instance sizes, operating systems, or even availability zones while still receiving discounts under your Savings Plans. This differs from Reserved Instances, which are tied to specific instance types and availability zones. This flexibility makes Savings Plans suitable for those who need to manage their EC2 resources.
The reason Savings Plans are cheaper than on-demand is because you make a commitment to AWS to use EC2 for a specific period. This enables AWS to better plan its resource usage and reduce operational costs. When AWS reduces its costs, it can pass these discounts on to customers who have Savings Plans.
The Principle of Commitment: Making a commitment helps AWS predict EC2 usage more accurately. This allows AWS to allocate resources efficiently, reduce waste, and lower overall costs. This commitment is the main reason why Savings Plans are cheaper than on-demand.
Discounts Based on Duration: Savings Plans have different discounts depending on the duration of your commitment. Generally, committing for three years results in higher discounts than committing for one year. Therefore, if you are confident that you will consistently use EC2 in the long term, a three-year commitment is the more economical choice.
AWS offers two main types of Savings Plans:
1. Compute Savings Plans: These are the most flexible Savings Plans, providing discounts on EC2, Fargate, and Lambda usage. You can change instance types, instance sizes, operating systems, or even availability zones while still receiving discounts under your Savings Plans.
2. EC2 Instance Savings Plans: These Savings Plans provide discounts only for EC2 usage. They offer discounts for using instance types within the same instance family. For example, if you have an EC2 Instance Savings Plan for the m5 instance family, you will receive discounts for using m5.large, m5.xlarge, m5.2xlarge, and other instance types within the m5 family.
Choosing the Right Savings Plan: The choice of Savings Plan depends on your needs and usage patterns. If you need maximum flexibility in using EC2, Fargate, and Lambda, Compute Savings Plans are the better choice. However, if you want higher discounts for EC2 usage only, EC2 Instance Savings Plans may be more suitable.
Maximizing the benefits of Savings Plans involves more than just purchasing them. It also requires consistent planning and usage monitoring to ensure that you receive the discounts under your Savings Plans.
Analyzing EC2 Usage: Before purchasing Savings Plans, you should analyze your EC2 usage thoroughly to determine which instance types, instance sizes, and availability zones you use, and how much EC2 you use per hour. You can use AWS Cost Explorer to help analyze this data.
Choosing the Right Commitment: After analyzing your EC2 usage, you should choose a commitment that aligns with your EC2 usage. Consider your current usage and estimate future usage. If you are unsure, you might start with a lower commitment and gradually increase it as you become more confident.
Monitoring Savings Plans Usage: After purchasing Savings Plans, you should regularly monitor your Savings Plans usage to ensure that you are receiving the discounts. If you find that your EC2 usage exceeds your commitment, you may consider purchasing additional Savings Plans or adjusting your EC2 usage to maximize discounts.
Problem: Choosing an inappropriate commitment that results in not receiving maximum discounts or wasting money. If the commitment is too low, you will pay on-demand rates for the excess usage. If the commitment is too high, you will waste money by not utilizing the committed resources.
Solution: Thoroughly analyze your EC2 usage before purchasing Savings Plans using AWS Cost Explorer. Choose a commitment that matches your actual usage. If unsure, start with a lower commitment and gradually increase it as you become more confident.
1. Savings Plans Cover Fargate and Lambda: In addition to EC2, Compute Savings Plans also cover Fargate and Lambda usage, allowing you to save more money if you use these services.
2. Savings Plans Can Be Used with Reserved Instances: You can use Savings Plans in conjunction with Reserved Instances. Discounts from Savings Plans are applied first, and the remaining usage is charged at the Reserved Instance rate. If you already have Reserved Instances, purchasing additional Savings Plans can help you save even more.
3. Savings Plans Are More Flexible Than Reserved Instances: Savings Plans offer more flexibility than Reserved Instances, allowing you to change instance types, instance sizes, or availability zones while still receiving discounts under your Savings Plans.
Question: Who are Savings Plans suitable for?
Answer: Savings Plans are suitable for those who use EC2 continuously and have consistent usage, especially those who want to save on EC2 usage costs in the long term.
Question: Should I choose a 1-year or 3-year Savings Plan?
Answer: If you are confident that you will use EC2 continuously in the long term, a 3-year Savings Plan will provide higher discounts. However, if you are unsure or have inconsistent EC2 usage, a 1-year Savings Plan may be more suitable.
Question: Can I cancel a Savings Plan?
Answer: No, you cannot cancel a Savings Plan. Once you purchase a Savings Plan, you are obligated to pay the committed amount until the end of the contract. Therefore, you should carefully consider your EC2 usage before purchasing a Savings Plan.
Question: Do Savings Plans affect EC2 scaling?
Answer: Savings Plans do not affect EC2 scaling. You can scale your EC2 instances up or down as needed while still receiving discounts under your Savings Plans, as long as your usage does not exceed your commitment.
Question: Should I use Savings Plans with Reserved Instances?
Answer: Yes, it is recommended to use Savings Plans with Reserved Instances to maximize discounts. Discounts from Savings Plans are applied first, and the remaining usage is charged at the Reserved Instance rate.
AWS Savings Plans: The official AWS website providing detailed information about Savings Plans, including how to use them and frequently asked questions.
Cloud HM Blog: An article about AWS Savings Plans in Thai, providing in-depth information and recommendations for using Savings Plans effectively.